เขื่อนเหมืองแตก – เอพี รายงานวันที่ 24 ม.ค. เกิดเหตุเขื่อนกักเก็บหางแร่เหล็ก ในประเทศบราซิล ถล่มลงมา ทำให้น้ำโคลนและของเสียจากการทำเหมืองหลากซัดชุมชน ในรัฐมีนัส เชไรส์ เบื้องต้นมีผู้สูญหายไปถึง 200 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่แจ้งยอดผู้สูญหายเพิ่มเป็น 300 ราย และระบุว่า มีความหวังน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิต หลังจากเจอศพแล้ว 9 รายอย่างเป็นทางการ
วันที่ 28 ม.ค. 62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
จากเหตุเขื่อนถล่มในประเทศบราซิล ทราบว่าเขื่อนดังกล่าวเป็นเขื่อนสำหรับกักเก็บหางแร่ของเหมืองเหล็ก ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทสัมปทานเหมืองที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล โดยเหตุการณ์นี้ทำให้น้ำโคลนและของเสียจากการทำเหมืองทะลักท่วมชุมชนที่อยู่อาศัย ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 39,000 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 300 คน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่บราซิลได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอีกหลายหมื่นคนให้รีบอพยพ เพราะเกรงอันตรายจากระดับน้ำที่สูงขึ้นที่เขื่อนอีกแห่ง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับเขื่อนที่เพิ่งแตกไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เขื่อนแตก ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทเอกชนดังกล่าว พร้อมเรียกร้องค่าปรับเป็นเงินราว 900 ล้านบาท ต่อความสูญเสียร้ายแรงครั้งนี้
สำนักข่าว เอพี รายงานเหตุสะเทือนขวัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเวอร์จิเนีย จับกุม นายดาโกตา เธริโอต์ อายุ 21 ปี ผู้ก่อคดีพ่อแม่ตนเอง แฟนสาว และพ่อกับน้องของแฟน รวม 5 ศพ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา นายเธริโอต์ยิงสังหาร น.ส.ซัมเมอร์ เออร์เนสต์ อายุ 20 ปี แฟนสาว นายบิลลี เออร์เนสต์ อายุ 43 ปี พ่อของแฟนสาว นายแทนเนอร์ เออร์เนสต์ น้องของแฟนสาว รวม 3 ศพ ที่บ้านในเมืองลิฟวิงสตัน แพริช รัฐหลุยเซียนา หลังจากนายเธริโอต์มาอยู่บ้านนี้ได้ไม่กี่สัปดาห์
จากนั้นนายเธริโอ์ขับรถของพ่อแฟนสาวกลับบ้านไปสังหารพ่อแม่ตนเอง คือ นายคีธ และนางเอลิซาเบธ อายุ 50 ปีทั้งคู่ แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านยาย นายคีธยังไม่ได้เสียชีวิตในทันที และแจ้งต่อตำรวจว่าลูกเป็นผู้ลงมือ
ด้านยายของมือปืน ย้ายไปอยู่โรงแรมตั้งแต่คืนวันเสาร์ เพราะกลัวว่าหลานที่เป็นฆาตกรจะโผล่มาที่บ้าน คุณยายขอให้ตำรวจไปตรวจที่บ้านตอนเช้าวันอาทิตย์ว่าปลอดภัยหรือไม่ ทำให้ตำรวจพบและจับกุมนายเธริโอต์ได้ในที่สุด
Mark Zuckerburg CEO ของ Facebook เผยสาเหตุที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ให้ความเชื่อมั่นในการให้ข้อมูลส่วนตัวต่อเฟสบุ๊คเนื่องจากไม่เข้าในการทำงานของมัน เขายังบอกอีกว่า บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลของผู้ใช้งานให้กับบริษัทอื่น เพราะในความจริงนั้นหารขายข้อมูลให้กับบริษัทอื่นๆนั้นยิ่งจะทำให้บริษัททั้งหลายมีความสนใจที่จะซื้อโฆษณาของเฟสบุ๊คลดน้อยลง และขเายังย้ำด้วยว่า Facebook มีมาตรการป้องหันข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่แข็งแกร่งเพื่อไม่ให้ใครสามารถเข้าถึงได้
น้ำใส BNK 48 เข้าขอโทษทูตอิสราเอล ปมสวมเสื้อสัญลักษณ์นาซี
จากกรณี “น้ำใส” หนึ่งในสมาชิกไอดอลกรุ๊ป BNK48 สวมเสื้อลายสัญลักษณ์ สวัสดิกะของพรรคนาซีเยอรมนี ขณะซ้อมคอนเสิร์ตจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเจ้าตัวได้ร้องไห้ขอโทษกลางเวทีคอนเสิร์ตนั้น
ล่าสุด “จ็อบซัง” ผู้จัดการวง BNK48 ได้นำ น้ำใส หรือ นางสาวพิชญาภา นาถาเข้าพบเอกอัครราชทูตอิสราเอล ฯพณฯ ดร.เมเอียร์ ชโลโม เพื่อแสดงความเสียใจต่อการกระทำ รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของและการตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือโฮโลคอสต์
ท่านทูตได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมเข้าใจว่าการกระทำครั้งนี้เกิดจากความไม่รู้ประวัติศาสตร์และขาดความตระหนัก ผมรู้สึกยินดีที่พวกเขามาขอโทษ และตกลงที่จะจัดเวิร์คช็อปเพื่อการศึกษาร่วมกันในอนาคต”
อิมแพคอารีนา เมืองทองธานีเมื่อคืนวานกระหึ่มด้วยเสียงเชียร์ของเหล่าโอตะที่มาร่วมให้กำลังใจและเป็นพยานในการจัด “General Election” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวง BNK48 วงน้องสาวไอดอลกรุ๊ปประเทศญี่ปุ่น ชัยชนะในครั้งนี้ตกเป็นของ “เฌอปราง อารีย์กุล” ครองอันดับ 1 ด้วยคะแนนโหวต 84, 195 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 คือ เจนนิษฐ์ ซึ่งได้ 58,362 คะแนน นับเป็นชัยชนะท่วมท้นและสมศักดิ์ศรีกัปตันวง
นอกจากรอยยิ้มและรอยน้ำตาจากความดีใจแล้ว ยังมีน้ำตาความเสียใจเมื่อ “น้ำใส” หนึ่งในสมาชิกของวง ปรากฏภาพสวมเสื้อยืดลายสวัสดิกะขณะซ้อมการแสดง นำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงความไม่เหมาะสม เพราะเป็นเครื่องหมายของพรรคนาซีซึ่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ต่อมา สถานเอกอัครราขทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ก็ได้เผยแพร่ข้อความลงในเฟซบุ๊กแสดงความตกใจต่อกรณีดังกล่าว “การสวมชุดสัญลักษณ์นาซีของนักร้อง BNK48 เป็นการทำร้ายจิตใจคนนับล้านทั่วโลก”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
